1.5.09

มาตาปารี เด็กชายจากดวงดาว





























จักรวาลก้าวไปข้างหน้าภายใต้ปริศนา
และคนเราน่ะก็เกิดมากิน เต้นรำ หลับนอนกัน
แล้วก็ใช้เวลาที่เหลือ...
พยายามล้วงความลับที่ซุกซ่อนภายใต้รูปลักษณ์ที่ตามองเห็น
เพราะเหตุนี้คนถึงเขียนหนังสือ
ส่วนคนที่เขียนหนังสือไม่เป็นก็เรียนรู้จากป่า
ฟังเสียงสัตว์ขุดดินหรือจ้องมองดวงดาว
จงหัดอ่านหนังสือไว้นะหลานเอ๊ย
จงหัดอ่านทั้งหนังสือที่มนุษย์และจักรวาลเขียนไว้
แล้วก็หมั่นเรียนรู้ จงเรียนรู้จากปราชญ์อยู่เสมอ...
(เทซโซ ดิอา มาเยลา ปู่ของมาตาปารี)

มาตาปารี เด็กชายจากดวงดาว/ เอ็มมานูเอล ดอนกาลา : เขียน; งามพรรณ เวชชาชีวะ : แปล จากภาษาฝรั่เศส เรื่อง Les petits garçons naissent aussi des étoiles.- กรุงเทพฯ : แพรวสำนักพิมพ์, 2548.

เช้าวันหนึ่ง...
มีเด็กชายฝาแฝดสองคนถือกำเนิดขึ้น แต่หากรู้ไหมว่ามีเด็กชายที่เป็นแฝดคนที่สามอีกคนติดอยู่ในท้องแม่ เวลาผ่านไปถึงสองวัน ผู้เป็นแม่รู้สึกปวดท้องขึ้นมาอีกครั้ง สุดท้ายก็ได้คลอดเด็กน้อย น้องคนสุดท้อง (สุดท้องจริงๆ) ออกมา และให้ชื่อเด็กที่ถือกำเนิดอย่างพิสดารคนนี้ว่า “มาตาปารี”

มาตาปารี
เด็กน้อยที่เป็นตัวเล่าเรื่องหลักในนวนิยาย (อิงประวัติศาสตร์) เล่มนี้
เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศของเขา ดินแดนแห่งหนึ่งในแถบทวีปแอฟริกา
เมื่อลัทธิล่าอาณานิคม-จักรวรรดินิยมใหม่ฝรั่งเศส เข้ามาครอบครองดินแดนของเขา
ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป คริสต์ศาสนาเข้ามามีบทบาทชะล้างความเชื่อดั้งเดิมของท้องถิ่น
บาทหลวงเข้ามา ทหารเข้ามา ระบบการเมืองการปกครองแบบใหม่ก็เข้ามาด้วย

ปู่ของมาตาปารี เป็นครูในโรงเรียนชนบทแต่กลับมีบทบาทสำคัญเรียกร้องให้รัฐหันกลับมาสนใจหลักสูตรท้องถิ่น ที่สอนให้เด็กเข้าใจวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม รู้จักป่า รู้จักพืชท้องถิ่น เรียนรู้จากต้นไม้ เรียนรู้จากปราชญ์ท้องถิ่น... ปู่ของเขายืนหยัดต่อสู้กับรัฐบาลอย่างจริงจัง สุดท้ายต้องตกเป็นเป้า
“ผู้ที่สั่นคลอนความมั่นคงของประเทศชาติ” อีกต่างหาก

ต่อมา เมื่อภายหลังการปลดแอกจากฝรั่งเศส ระบอบประชาธิปไตยเข้ามา แต่มันกลับไม่ยั่งยืน ด้วยระบอบของอำนาจนิยม และเผด็จการ ประชาธิปไตยในบ้านเกิดของมาตาปารีจึงเป็นอันต้องล้มลุกคลุกคลานเสมอ มาตาปารี เรียนรู้จากการได้ฟัง การได้เห็น และการสัมพันธ์ กระสุนปืนและคราบเลือดของผู้คน ที่พยายามจะต่อกรกับรัฐบาลเผด็จการยุคแล้วยุคเล่า

หนังสือเล่มนี้ แม้ชื่อเรื่องจะฟังดูแล้ว เหมือนกับนวนิยายเด็ก วรรณกรรมเยาวชน แต่ขอยืนยันว่า “เด็กอ่านได้ แต่ผู้ใหญ่อ่านดีกว่า” ความซับซ้อนของความคิดของผู้ใหญ่ ความฉ้อฉลคดโกง ความกระหายในศักดิ์และศรี หรืออำนาจของมนุษย์ ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการบอกเล่าอย่างไม่ประสีประสาของมาตาปารี

แต่ใครจะรู้ว่า มาตาปารี เป็นตัวดำเนินเรื่องที่มาจากดวงดาวโดยแท้ เพราะเด็กน้อยคนนี้ได้บอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ ไม่ใช่แค่ในอดีต แต่สามารถเห็นเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในปัจจุบัน และยังคงต่อเนื่องไปในอนาคตด้วย

“เมื่อมีการปฏิวัติ คนกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาล้มล้างอำนาจของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ด้วยคำว่าประชาธิปไตย สุดท้ายก็ยึดติด หลงระเริงกับอำนาจ กลายมาเป็นเผด็จการอีกครั้ง แล้วก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาล้มล้างระบอบนั้นอีกครั้ง เป็นวงจรอย่างนี้เรื่อยไป... ส่วนประชาชนตาดำๆ จำนวนมาก ที่ต้องการเพียงชีวิตที่สงบสุข อยู่กับป่า กับภูเขา และครอบครัวเท่านั้น แต่ต้องมาพัวพันอยู่กับผู้นำที่ไม่เคยดำรงซึ่งความเป็นธรรมได้อย่างถาวรเลย”

ว่าแต่... จะมีคนอีกสักเท่าไรที่ต้องสูญเสียญาติ พ่อแม่ พี่น้อง ไปกับการปฏิวัติครั้งแล้วครั้งเล่าเหล่านั้น
... ... ... ...

No comments:

Post a Comment